บทคัดย่อ:การมีกลยุทธ์เทรด Forex ที่ชัดเจนคือกุญแจสำคัญของนักเทรดมืออาชีพ เพราะตลาดไม่ได้วัดกันที่ใครทำนายแม่น แต่ที่ใครบริหารความเสี่ยงและวางแผนได้ดีกว่า บทความนี้นำเสนอ 3 กลยุทธ์ยอดนิยมที่สามารถปรับใช้ได้ทันที: เทรดตามเทรนด์ (Trend Following) เน้นเข้าออเดอร์ตามทิศทางตลาด, เทรดตามข่าว (News Trading) ใช้ประโยชน์จากความผันผวนช่วงประกาศเศรษฐกิจ, และเทรดระยะสั้น (Scalping/Day Trading) เก็บกำไรจากการเคลื่อนไหวสั้น ๆ สุดท้าย กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือ “กลยุทธ์ที่เหมาะกับตัวคุณ” พร้อมวินัยและการบริหารพอร์ตที่มั่นคง

“การมีกลยุทธ์เทรด Forex ที่ชัดเจน” คือสิ่งที่แยกมืออาชีพออกจากนักเทรดทั่วไป เพราะตลาด Forex ไม่ได้วัดกันที่ใครทำนายทิศทางได้แม่นกว่า แต่ที่ใคร “บริหารความเสี่ยงและวางแผน” ได้ดีกว่าต่างหาก
หลายคนอาจเคยลองเทรดตามสัญญาณ หรือตามอินดิเคเตอร์โดยไม่มีระบบที่ชัดเจน แต่สุดท้ายพอร์ตกลับแกว่ง เพราะขาด “แนวทางการตัดสินใจ” ที่มั่นคง วันนี้เราจะพาไปดู 3 กลยุทธ์เทรด Forex ที่นักเทรดทั่วโลกนิยมใช้จริง — และที่สำคัญ คุณสามารถปรับใช้ได้ทันทีกับพอร์ตของตัวเอง
กลยุทธ์เทรดตามเทรนด์ (Trend Following)
“Trend is your friend” คือหลักคิดพื้นฐานของเทรดเดอร์ระดับโลก การเทรดตามเทรนด์คือการเข้าออเดอร์ไปในทิศทางเดียวกับตลาด ไม่ฝืนแนวโน้ม
จุดเด่นของกลยุทธ์นี้:
- เหมาะกับมือใหม่ เพราะเข้าใจง่าย
- สามารถใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อย่าง Moving Average, MACD หรือ RSI เพื่อยืนยันสัญญาณ
- เหมาะกับตลาดที่มีโมเมนตัมชัด เช่น คู่เงินหลัก EUR/USD หรือ GBP/USD
แนวทางปรับใช้:
รอให้ราคาทะลุแนวรับ–แนวต้าน พร้อมค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) ชี้ไปในทิศทางเดียวกัน แล้วจึงเปิดออเดอร์ตามเทรนด์ พร้อมตั้ง Stop Loss ใต้/เหนือแนวรับแนวต้านเพื่อจำกัดความเสี่ยง
กลยุทธ์เทรดตามข่าว (News Trading)
ตลาด Forex ตอบสนองต่อข่าวเศรษฐกิจและตัวเลขสำคัญอย่างรวดเร็ว เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ยจาก FOMC, ตัวเลข CPI, หรือ Non-Farm Payrolls
จุดเด่นของกลยุทธ์นี้:
- โอกาสทำกำไรสูงในช่วงเวลาสั้น ๆ
- เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ติดตามข่าวสารและเข้าใจพฤติกรรมของตลาด
แนวทางปรับใช้:
- ตรวจสอบปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar) เพื่อรู้ช่วงเวลาประกาศข่าว
- หลีกเลี่ยงการเปิดออเดอร์ก่อนข่าวแรงออก
- หลังข่าวประกาศ รอให้ราคาเริ่มนิ่งและเกิดสัญญาณยืนยันก่อนเข้าเทรด
สิ่งสำคัญ: ต้องมีแผนบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด เพราะความผันผวนช่วงข่าวอาจทำให้เกิด Slippage หรือการปิดออเดอร์ผิดราคาได้
กลยุทธ์เทรดแบบสั้น (Scalping / Day Trading)
สำหรับนักเทรดที่ชอบเห็นผลเร็ว การเทรดระยะสั้นคือทางเลือกยอดนิยม เพราะใช้เวลาอยู่ในตลาดไม่นาน และเก็บกำไรจากการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่จุด
จุดเด่นของกลยุทธ์นี้:
- ทำกำไรได้หลายครั้งต่อวัน
- เหมาะกับตลาดที่มีสภาพคล่องสูงและสเปรดต่ำ เช่น EUR/USD หรือ USD/JPY
- ต้องใช้ความชำนาญในการอ่านกราฟและควบคุมอารมณ์
แนวทางปรับใช้:
ใช้ Timeframe สั้น เช่น M1–M15 ร่วมกับอินดิเคเตอร์ MACD หรือ Bollinger Bands เพื่อหาจังหวะเข้าออกอย่างแม่นยำ และควรเทรดเฉพาะช่วงตลาดหลัก เช่น London หรือ New York Session เพื่อให้ได้สเปรดที่ดีที่สุด
สรุป: กลยุทธ์เทรด Forex ที่ดีที่สุด คือ “กลยุทธ์ที่เหมาะกับคุณ”
สุดท้ายแล้ว ไม่มีกลยุทธ์เทรด Forex แบบใดที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน เพราะแต่ละกลยุทธ์มีข้อดี–ข้อจำกัดต่างกัน นักเทรดมืออาชีพจึงมักใช้เวลาทดลองและพัฒนา “ระบบเทรดของตัวเอง” ที่สอดคล้องกับทุน เวลา และความเสี่ยงที่รับได้
หากคุณเพิ่งเริ่มต้น ให้เริ่มจากกลยุทธ์พื้นฐาน เช่น เทรดตามเทรนด์ และฝึกการบริหารพอร์ตอย่างมีวินัย เมื่อเข้าใจจังหวะของตลาดมากขึ้น คุณจะสามารถสร้าง “สไตล์การเทรดเฉพาะตัว” ที่ยั่งยืนในระยะยาวได้แน่นอน
โดนหลอกโดนโกง อย่าเก็บไว้คนเดียว แอดเหยี่ยวช่วยได้!
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
